พระสัญญาต่อบรรดาผู้ซึ่งได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม

อะไรคือเส้นทางที่พระเจ้าทรงใช้ในการทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อม?  เส้นทางนั้น รวมแง่มุมด้านใดไว้บ้าง?  เจ้าเต็มใจที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าหรือไม่?  เจ้าเต็มใจที่จะยอมรับการพิพากษาและการตีสอนของพระองค์หรือไม่?  เจ้ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับคำถามเหล่านี้?  หากเจ้าไม่มีความรู้ที่จะพูดถึง เช่นนั้นแล้วนี่ก็เป็นข้อพิสูจน์ ว่าเจ้ายังคงไม่รู้จักพระราชกิจของพระเจ้า ว่าเจ้ายังไม่ได้รับการทำให้รู้แจ้งโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์แต่อย่างใดเลย  มันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนเช่นนั้นจะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม  พวกเขาจะได้รับพระคุณเพียงปริมาณเล็กน้อยที่พอจะชื่นชมได้ในเวลาสั้นๆ และมันจะไม่ยืนยาว  ผู้คนไม่สามารถได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าได้ หากพวกเขามัวแต่ชื่นชมไปกับพระคุณของพระองค์  บางคนรู้สึกพึงพอใจเมื่อเนื้อหนังของพวกเขามีสันติสุขและความชื่นชมยินดี เมื่อชีวิตของพวกเขาเป็นไปอย่างง่ายดายและปราศจากความทุกข์ยากหรือโชคร้าย เมื่อพวกเขาทั้งครอบครัวมีชีวิตอยู่ในความปรองดอง ไม่มีการโต้เถียงกัน หรือการโต้แย้ง—และพวกเขาอาจถึงขั้นเชื่อว่า นี่คือพระพรของพระเจ้า  ในความเป็นจริง มันเป็นแค่พระคุณของพระเจ้า  พวกเจ้าจะต้องไม่พึงพอใจไปกับการแค่ได้ชื่นชมไปกับพระคุณของพระเจ้า  ความคิดเช่นนั้นช่างไร้ความละเอียดอ่อนเหลือเกิน  ต่อให้เจ้าอ่านพระวจนะของพระเจ้าทุกวัน และอธิษฐานทุกวัน และจิตวิญญาณของเจ้ารู้สึกชื่นชมยินดีอย่างใหญ่หลวง และมีสันติสุขเป็นพิเศษ หากสุดท้ายแล้ว เจ้าก็ยังไม่มีอะไรจะพูดถึงความรู้ของเจ้าเกี่ยวกับพระเจ้าและพระราชกิจของพระองค์ และไม่ได้ผ่านประสบการณ์อะไรมาเลย และไม่สำคัญว่า เจ้าจะได้กินและดื่มพระวจนะของพระเจ้ามากสักเท่าไร หากความรู้สึกทั้งมวลของเจ้าคือสันติสุขและความชื่นชมยินดีทางจิตวิญญาณ และรู้สึกว่าพระวจนะของพระเจ้าหวานหูเหนือใดเทียม ราวกับว่าเจ้าไม่สามารถชื่นชมได้เพียงพอ แต่เจ้าไม่มีประสบการณ์ที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงแม้แต่น้อยต่อพระวจนะของพระเจ้า และปราศจากความเป็นจริงแห่งพระวจนะของพระองค์อย่างสิ้นเชิง เช่นนั้นแล้ว เจ้าจะสามารถได้รับอะไรจากความเชื่อเช่นนั้นในพระเจ้า?  หากเจ้าไม่สามารถใช้ชีวิตตามแก่นสารแห่งพระวจนะของพระเจ้า เช่นนั้นแล้ว การกินและการดื่มพระวจนะเหล่านี้ของเจ้า และคำอธิษฐานของเจ้าก็คงไม่มีค่าอะไรนอกจากการเชื่อทางศาสนา  ผู้คนเหล่านั้นไม่สามารถได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าและไม่สามารถได้รับการทรงรับไว้โดยพระเจ้า  ผู้คนซึ่งได้รับการทรงรับไว้โดยพระเจ้าคือผู้คนที่ไล่ตามเสาะหาความจริง  สิ่งที่พระเจ้าทรงรับไว้ไม่ใช่เนื้อหนังของมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งต่างๆ ที่เป็นของเขา แต่เป็นส่วนซึ่งอยู่ภายในตัวเขาที่เป็นของพระเจ้า  ดังนั้น เมื่อพระเจ้าทรงทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อม พระองค์มิได้ทรงทำให้เนื้อหนังของพวกเขามีความเพียบพร้อม แต่เป็นหัวใจของพวกเขา เพื่อช่วยให้หัวใจของพวกเขาได้รับการทรงรับไว้โดยพระเจ้า ซึ่งกล่าวได้ว่า โดยสาระสำคัญแล้ว การทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อมของพระเจ้าก็คือการที่พระเจ้าทรงทำให้หัวใจของมนุษย์มีความเพียบพร้อม เพื่อที่หัวใจดวงนี้อาจหันมาหาพระเจ้า และเพื่อที่หัวใจดวงนี้อาจรักพระองค์

เนื้อหนังของมนุษย์เป็นเลือดเนื้อ ไม่มีประโยชน์อะไรที่พระเจ้าจะทรงรับเนื้อหนังของมนุษย์ไว้ เพราะเนื้อหนังของมนุษย์นั้นเป็นบางสิ่งซึ่งมีการเสื่อมสลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่สามารถได้รับมรดกหรือพระพรของพระองค์ได้  หากเนื้อหนังของมนุษย์ได้ถูกทรงรับไว้ และมีเพียงแค่เนื้อหนังของมนุษย์เท่านั้นที่อยู่ในกระแสทางเดินนี้ เช่นนั้น ต่อให้มนุษย์ขึ้นชื่อว่าอยู่ในกระแสนี้ หัวใจของเขาก็เป็นของซาตาน  ในกรณีที่เป็นเช่นนั้น ไม่เพียงแต่ผู้คนจะไร้ความสามารถที่จะกลายมาเป็นการสำแดงของพระเจ้าได้ แต่พวกเขาจะกลับกลายมาเป็นภาระของพระองค์เช่นกัน และดังนั้น การทรงเลือกผู้คนของพระเจ้าก็จะกลายเป็นไร้ความหมาย  บรรดาผู้ที่พระเจ้าตั้งพระทัยที่จะทำให้เพียบพร้อมทุกคนจะได้รับพรของพระองค์และมรดกของพระองค์  นั่นก็คือ พวกเขารับเอาสิ่งที่พระเจ้าทรงมีและทรงเป็น เพื่อที่จะได้กลายเป็นสิ่งที่พวกเขามีอยู่ภายใน พวกเขาจะมีพระวจนะทั้งมวลของพระเจ้ากอปรกันขึ้นเป็นพวกเขา พระเจ้าจะทรงเป็นอะไรก็ตาม พวกเจ้าก็สามารถจะรับมันเข้าไปได้ทั้งหมดในสภาพนั้นอย่างไม่ผิดเพี้ยน และด้วยเหตุนั้นจึงใช้ชีวิตตามความจริงได้  นี่คือบุคคลประเภทที่ได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า และเป็นผู้ซึ่งได้รับการทรงรับไว้โดยพระเจ้า  มีเพียงคนบางคนซึ่งเป็นเช่นนี้เท่านั้นที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับพรซึ่งพระเจ้าประทานให้

1. การได้รับความรักทั้งมวลของพระเจ้า

2. การกระทำอันสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระเจ้าในทุกสรรพสิ่ง

3. การได้รับการทรงนำของพระเจ้า การมีชีวิตอยู่ในความสว่างของพระเจ้า และการได้รับความรู้แจ้งของพระเจ้า

4. การใช้ชีวิตบนแผ่นดินโลกในภาพลักษณ์ที่พระเจ้าทรงรัก การรักพระเจ้าอย่างแท้จริงเฉกเช่นที่เปโตรได้ทำ ถูกตรึงกางเขนเพื่อพระเจ้า และคู่ควรที่จะตายเพื่อการตอบสนองความรักของพระเจ้า การมีสง่าราศีเดียวกันกับเปโตร

5. การได้รับความรัก ความเคารพ และความเลื่อมใสจากทุกคนบนโลก

6. การพิชิตทุกแง่มุมของพันธนาการแห่งความตายและแดนคนตาย การไม่ให้โอกาสซาตานได้ทำงานของมัน การถูกพระเจ้าทรงครอบครอง การมีชีวิตอยู่ภายในจิตวิญญาณที่สดชื่นและมีชีวิตชีวา และการไม่เหนื่อยล้า

7. การมีสำนึกรับรู้ถึงความปลื้มปีติและความตื่นเต้นเกินกว่าจะพรรณนาทุกเวลาตลอดชีวิต ราวกับผู้ที่ได้มองดูการมาถึงของวันแห่งพระสิริของพระเจ้า

8. การได้รับสง่าราศีไปพร้อมกันกับพระเจ้า และได้รับโฉมหน้าซึ่งคล้ายคลึงกับเหล่าวิสุทธิชนผู้เป็นที่รักของพระเจ้า

9. การได้กลายเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงรักบนแผ่นดินโลก ซึ่งก็คือ บุตรผู้เป็นที่รักคนหนึ่งของพระเจ้า

10. การเปลี่ยนแปลงรูปร่างและการขึ้นไปพร้อมกับพระเจ้าสู่สวรรค์ชั้นที่สาม และการอยู่เหนือเนื้อหนัง

มีเพียงผู้คนที่สามารถสืบทอดพระพรของพระเจ้าเท่านั้นที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมและถูกทรงรับไว้โดยพระเจ้า  ณ เพลานี้ เจ้าได้รับอะไรบ้างหรือยัง?  พระเจ้าได้ทรงทำให้เจ้ามีความเพียบพร้อมไปถึงขั้นไหนแล้ว?  พระเจ้าไม่ได้ทรงทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อมโดยการสุ่ม การทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อมของพระองค์นั้นมีเงื่อนไข และมีผลลัพธ์ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน  มิใช่เป็นดังที่มนุษย์จินตนาการว่า ตราบที่เขามีความเชื่อในพระเจ้าแล้วไซร้ เขาจะสามารถได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมและได้รับการทรงรับไว้โดยพระเจ้า และเขาจะสามารถได้รับพระพรและมรดกของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก  สิ่งต่างๆ เหล่านั้นลำบากยากเย็นเหลือเกิน—ไม่ต้องพูดอะไรถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของผู้คนด้วย  ในเวลานี้ สิ่งที่พวกเจ้าควรแสวงหาเป็นสำคัญก็คือ การได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าในทุกสรรพสิ่ง และได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าผ่านผู้คน เรื่องราว และสิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่เจ้าได้เผชิญ เพื่อที่สิ่งต่างๆ ที่พระเจ้าทรงเป็นจะถูกกอปรกันขึ้นเป็นพวกเจ้ามากกว่าเดิม  ก่อนอื่นเจ้าต้องได้รับมรดกของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก เช่นนี้เท่านั้นที่เจ้าจะได้กลายเป็นมีสิทธิ์ที่จะสืบทอดพรต่างๆ ที่มากขึ้นและยิ่งใหญ่ขึ้นจากพระเจ้า  เหล่านี้คือสรรพสิ่งที่พวกเจ้าควรแสวงหา และเป็นสิ่งที่เจ้าควรเข้าใจก่อนอื่นใดทั้งหมด  ยิ่งเจ้าแสวงหาที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าในทุกสรรพสิ่งมากขึ้นเท่าไร เจ้าก็จะยิ่งสามารถมองเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าในทุกสรรพสิ่งมากขึ้นเท่านั้น อันจะส่งผลให้เจ้าพยายามอย่างแข็งขันที่จะเข้าสู่การเป็นอยู่ของพระวจนะของพระเจ้า และเข้าสู่ความเป็นจริงของพระวจนะของพระองค์ผ่านมุมมองที่แตกต่างและในเรื่องราวต่างๆ  เจ้าไม่สามารถพอใจกับสภาวะที่เป็นลบเช่นนั้นได้ เช่น การที่เพียงไม่ทำบาป หรือไม่มีมโนคติที่หลงผิด ไม่มีปรัชญาการดำรงชีวิตทางโลก และไม่มีเจตจำนงเยี่ยงมนุษย์  พระเจ้าทรงทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อมในหลากหลายวิธี ทุกสาระเรื่องราวล้วนมีความเป็นไปได้ของการได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมแฝงอยู่ และพระองค์สามารถทำให้เจ้ามีความเพียบพร้อมไม่เพียงในสภาวะเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นบวก แต่ในสภาวะเงื่อนไขที่เป็นลบด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้สิ่งที่เจ้าได้รับนั้นมีปริมาณล้นเหลือมากขึ้น  ในแต่ละวัน มีโอกาสเหมาะต่างๆ ที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม และโอกาสต่างๆ ที่จะได้รับการทรงรับไว้โดยพระเจ้า  หลังผ่านประสบการณ์ดังกล่าวมาสักช่วงเวลาหนึ่ง เจ้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง และจะเข้าใจไปเองโดยธรรมชาติในหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งเจ้าเคยไม่รู้เท่าทันมาก่อน  จะไม่มีความจำเป็นสำหรับคำแนะนำจากคนอื่นๆ พระเจ้าจะทรงให้ความรู้แจ้งแก่เจ้าโดยที่เจ้าไม่รู้ตัวเลย เพื่อที่เจ้าก็จะได้รับความรู้แจ้งในทุกสรรพสิ่ง และเข้าสู่ประสบการณ์ทั้งหมดของเจ้าอย่างละเอียด  แน่นอนว่าพระเจ้าจะทรงนำเจ้าเพื่อที่เจ้าจะไม่เบนทิศไปทางซ้ายหรือทางขวา และดังนั้น เจ้าก็จะก้าวเดินไปบนเส้นทางของการได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า

การได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าไม่สามารถถูกจำกัดอยู่ที่ความเพียบพร้อมโดยการกินและดื่มพระวจนะของพระเจ้า  การได้รับประสบการณ์ในแบบนั้นเป็นเพียงด้านเดียวเกินไป จะครอบคลุมน้อยเกินไป และอาจจำกัดผู้คนไว้เพียงในวงเขตที่เล็กมาก  เช่นนี้แล้ว ผู้คนก็จะขาดการบำรุงเลี้ยงทางจิตวิญญาณที่พวกเขาพึงต้องมีไปอย่างมาก  หากพวกเจ้าปรารถนาจะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า เจ้าต้องเรียนรู้ว่าจะได้รับประสบการณ์ได้อย่างไรในทุกเรื่อง จนสามารถได้รับความรู้แจ้งในทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า  ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ก็ควรจะนำประโยชน์มาให้เจ้า และไม่ควรทำให้เจ้าคิดลบ  จะอย่างไรก็ช่าง เจ้าควรสามารถพิจารณาสิ่งต่างๆ ณ ขณะที่ยืนอยู่เคียงข้างพระเจ้า และไม่วิเคราะห์หรือศึกษาสิ่งเหล่านั้นจากมุมมองของมนุษย์ (นี่จะเป็นการเบี่ยงเบนอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของเจ้า)  หากเจ้ามีประสบการณ์ดังกล่าว เช่นนั้นแล้วหัวใจของเจ้าก็จะเต็มไปด้วยภาระต่างๆ ในชีวิตของเจ้า เจ้าจะมีชีวิตอยู่ในความสว่างแห่งโฉมพระพักตร์ของพระเจ้าตลอดเวลา ไม่เบี่ยงเบนโดยง่ายในการปฏิบัติของเจ้า  ผู้คนเช่นนั้นมีอนาคตอันสดใสรออยู่เบื้องหน้าพวกเขา มีโอกาสเหมาะมากมายเหลือเกินที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า  ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่า พวกเจ้าเป็นใครบางคนที่รักพระเจ้าอย่างแท้จริงหรือไม่ และ พวกเจ้ามีความแน่วแน่ที่จะรับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า ที่จะได้รับการทรงรับไว้โดยพระเจ้า และได้รับพรและมรดกจากพระองค์หรือไม่  แค่ความแน่วแน่อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ พวกเจ้าต้องมีความรู้อย่างมาก ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะมีการเบี่ยงเบนอยู่เสมอในการปฏิบัติตนของพวกเจ้า  พระเจ้าเต็มพระทัยที่จะทำให้พวกเจ้าทั้งหมดทุกคนได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม  ตามที่เป็นอยู่ตอนนี้ แม้ผู้คนส่วนใหญ่ได้ยอมรับพระราชกิจของพระเจ้ามาเป็นเวลานานมากแล้ว พวกเขาก็ยังจำกัดตัวเองอยู่เพียงแค่เพลิดเพลินสำราญอยู่ในพระคุณของพระเจ้า และเต็มใจเพียงให้พระเจ้าทรงมอบความสะดวกสบายของเนื้อหนังเพียงเล็กน้อยแก่พวกเขา แต่ยังคงไม่เต็มใจที่จะได้รับวิวรณ์ที่มากกว่านั้น และสูงส่งกว่านั้น  นี่แสดงว่าหัวใจของมนุษย์ยังคงอยู่ภายนอกเสมอ  แม้ว่างานของมนุษย์ การรับใช้ของเขา และหัวใจที่รักพระเจ้าของพวกเขาจะมีราคีต่างๆ น้อยลงทุกที เท่าที่พิจารณาจากเนื้อแท้ภายในตัวเขาและการคิดล้าหลังของเขา มนุษย์ยังคงแสวงหาสันติสุขและความชื่นชมยินดีของเนื้อหนังตลอดเวลา และไม่ใส่ใจทั้งสิ้นว่าสภาพเงื่อนไขต่างๆ มีไว้เพื่อสิ่งใด และพระเจ้าอาจมีพระประสงค์อะไรในการทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อม  และดังนั้น ชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่จึงยังคงหยาบขาดความละเอียดอ่อนและเสื่อมโทรม  ชีวิตของพวกเขายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย พวกเขาก็แค่ไม่ได้ถือว่าความเชื่อในพระเจ้าเป็นเรื่องสำคัญ ราวกับว่าพวกเขามีความเชื่อเพียงเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ออกท่าออกทางไปเรื่อยเปื่อยและใช้ชีวิตผ่านไปวันๆ ในแบบเดิมๆ ล่องลอยเคว้งคว้างไปในการดำรงอยู่ที่ไร้จุดประสงค์  มีเพียงน้อยนิดที่เป็นผู้ซึ่งสามารถแสวงหาที่จะเข้าสู่พระวจนะของพระเจ้าในทุกสรรพสิ่ง ได้รับสิ่งต่างๆ ที่มากกว่าและมั่งคั่งกว่า กลายเป็นผู้คนที่มีฐานะมั่งคั่งกว่าในพระนิเวศของพระเจ้าในวันนี้ และได้รับพรจากพระเจ้ามากกว่า  หากเจ้าแสวงหาการได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าในทุกสรรพสิ่ง และสามารถได้รับสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้บนแผ่นดินโลก หากเจ้าแสวงหาการได้รับการทำให้รู้แจ้งโดยพระเจ้าในทุกสรรพสิ่ง และไม่ปล่อยให้หลายปีเลื่อนผ่านไปเฉยๆ นี่คือเส้นทางในอุดมคติที่จะเข้าสู่อย่างกระฉับกระเฉง  เช่นนี้เท่านั้นเจ้าจึงกลายเป็นมีค่าพอและมีสิทธิ์ที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้า  เจ้าคือผู้ที่แสวงหาการได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระเจ้าอย่างแท้จริงหรือไม่?  เจ้าเป็นผู้ที่มีความจริงจังจริงใจในทุกสรรพสิ่งอย่างแท้จริงหรือไม่?  เจ้ามีจิตวิญญาณแห่งความรักเพื่อพระเจ้าเฉกเช่นที่เปโตรมีหรือไม่?  เจ้ามีเจตจำนงที่จะรักพระเจ้าอย่างที่พระเยซูทรงมีหรือไม่?  เจ้าได้มีความเชื่อในพระเยซูมาหลายปี เจ้าเคยเห็นหรือไม่ว่า พระเยซูทรงรักพระเจ้าเช่นไร?  พระเยซูคือผู้ที่เจ้าเชื่ออย่างแท้จริงหรือไม่?  เจ้าเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงภาคปฏิบัติของวันนี้ เจ้าเคยเห็นหรือไม่ว่าพระเจ้าผู้ทรงภาคปฏิบัติที่มีเนื้อหนังทรงรักพระเจ้าในสวรรค์อย่างไร?  เจ้ามีความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า นั่นก็เพราะ การตรึงกางเขนของพระเยซูเพื่อประโยชน์ต่อการไถ่บาปมวลมนุษย์ และการอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระองค์ทรงกระทำนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่ยอมรับกันทั่วไป  กระนั้นความเชื่อของมนุษย์ก็ไม่ได้มาจากความรู้หรือความเข้าใจที่แท้จริงต่อพระเยซูคริสต์  เจ้าเชื่อในพระนามของพระเยซูเท่านั้น แต่เจ้าไม่ได้เชื่อในพระวิญญาณของพระองค์ เพราะเจ้าไม่ใส่ใจแม้แต่น้อยว่าพระเยซูทรงรักพระเจ้าเช่นไร  ความเชื่อในพระเจ้าของเจ้านั้นช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน  ทั้งที่มีความเชื่อในพระเยซูมาหลายปี เจ้าก็ไม่รู้ว่าจะรักพระเจ้าอย่างไร  นี่ไม่ได้ทำให้เจ้าเป็นคนโง่ที่สุดในโลกหรอกหรือ?  นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าหลายปีที่ผ่านมา เจ้าได้กินอาหารขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าไปอย่างสูญเปล่า  ไม่เพียงแค่เราที่ไม่ชอบผู้คนเยี่ยงนี้ เราเชื่อมั่นว่าองค์พระเยซูคริสต์เจ้า—ผู้ที่เจ้าเคารพเทิดทูน—ก็จะไม่ชอบพวกเขาเช่นกัน  ผู้คนเช่นนั้นจะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมได้อย่างไร?  เจ้าไม่รู้สึกขวยเขินจนหน้าแดงเข้มหรือ?  เจ้าไม่รู้สึกอับอายหรือ?  เจ้ายังคงมีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าอีกหรือ?  พวกเจ้าทั้งหมดเข้าใจความหมายของสิ่งที่เราได้พูดไปแล้วหรือไม่?

ก่อนหน้า:  ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณที่เป็นปกตินำทางผู้คนไปบนร่องครรลองที่ถูกต้อง

ถัดไป:  คนชั่วย่อมจะถูกลงโทษอย่างแน่นอน

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 6) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 7) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 8) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 9) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

Connect with us on Messenger