บทที่ 69

เมื่อเราประกาศเจตนารมณ์ออกไป ผู้ใดก็ตามที่กล้าต้านทานและผู้ใดก็ตามที่กล้าตัดสินหรือสงสัย เราจะกวาดล้างทันที  ในวันนี้ผู้ใดก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตนตามเจตนารมณ์ของเรา หรือเข้าใจเจตนารมณ์ของเราผิด ต้องถูกกำจัดและโยนออกไปจากราชอาณาจักรของเรา  ในราชอาณาจักรของเราไม่มีผู้ใดอื่น ทั้งหมดล้วนเป็นบุตรของเรา—ผู้คนที่เรารักและที่คำนึงถึงเรา  ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาคือบรรดาผู้ที่ปฏิบัติตนตามวจนะของเราและสามารถครอบครองอำนาจในการพิพากษาประชาชาติทั้งหมดกับกลุ่มชนทั้งปวงแทนเรา  ที่มากกว่านั้น พวกเขาคือกลุ่มบุตรหัวปีที่บริสุทธิ์ใจและมีชีวิตชีวา เรียบง่ายและเปิดเผย และทั้งซื่อสัตย์และชาญฉลาด  เจตนารมณ์ของเราได้รับการตอบสนองในตัวพวกเจ้า และสิ่งที่เราปรารถนาที่จะทำก็ลุล่วงในตัวพวกเจ้าโดยเปิดเผยและถูกเผยอย่างหมดสิ้น ปราศจากข้อผิดพลาด  เราได้เริ่มทอดทิ้งพวกที่มีเจตนาและจุดประสงค์ผิดๆ และเราจะทำให้พวกเขาล้มลงคนแล้วคนเล่า  เราจะทำลายพวกเขาทีละคนจนถึงจุดที่พวกเขาไม่สามารถมีชีวิตรอด—และทั้งหมดนี้หมายถึงวิญญาณของพวกเขา ดวงจิตของพวกเขา และร่างกายของพวกเขา

จงเข้าใจเถิดว่าการกระทำของมือเรา—การสนับสนุนคนยากจน การดูแลและปกป้องบรรดาผู้ที่รักเรา การให้ความรอดแก่พวกที่รู้ไม่เท่าทันและกระตือรือร้นซึ่งไม่ได้ทำให้การบริหารจัดการของเราหยุดชะงัก การลงโทษพวกที่ต้านทานเราและพวกที่ไม่ร่วมมือกับเราอย่างแข็งขัน—สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจะได้รับการยืนยันทีละอย่าง โดยสอดคล้องกับถ้อยคำของเรา  เจ้าเป็นคนหนึ่งที่รักเราอย่างแท้จริงไหม?  เจ้าเป็นคนหนึ่งที่สละตัวเจ้าเองเพื่อเราอย่างสัตย์ซื่อไหม?  เจ้าเป็นคนหนึ่งที่ฟังวจนะของเราและปฏิบัติตนอย่างสอดคล้องไหม?  เจ้าเป็นคนหนึ่งที่ต่อต้านเรา หรือเจ้าเป็นคนหนึ่งที่สอดคล้องกับเรากันแน่?  ลึกลงไป เจ้ามีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ไหม?  เจ้าสามารถตอบแต่ละข้อที่เราได้กล่าวมาแล้วไหม?  หากเจ้าไม่สามารถ เช่นนั้นแล้วเจ้าก็เป็นใครบางคนที่แสวงหาด้วยความกุลีกุจอ แต่ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของเรา  ผู้คนเช่นนั้นจะทำให้การบริหารจัดการของเราหยุดชะงักและเข้าใจเจตนารมณ์ของเราผิดได้อย่างง่ายดายที่สุด  หากพวกเขามีเจตนาที่ผิดแม้เพียงชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาย่อมจะอยู่ภายใต้การชำระล้างและการทำลายล้างของเรา

ภายในเรา มีความล้ำลึกไม่รู้จบที่มิอาจหยั่งลึกได้  เราจะเผยความล้ำลึกเหล่านี้แก่ผู้คนทีละอย่าง โดยสอดคล้องกับแผนการของเรา  นั่นคือเราจะเผยความล้ำลึกแก่บุตรหัวปีทั้งหลายของเรา  ส่วนผู้ไม่มีความเชื่อและคนที่ต้านทานเรา เราจะอนุญาตเพียงให้ไหลไปกับกระแสเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดเราจะต้องทำให้พวกเขาเข้าใจว่าเราคือบารมีและการพิพากษา  ผู้ไม่มีความเชื่อทุกวันนี้มีแต่ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขาเท่านั้น แต่กลับไม่รู้เจตนารมณ์ของเรา  เฉพาะบุตรของเราเท่านั้น—ผู้คนที่เรารัก—ที่รู้และเข้าใจเจตนารมณ์ของเรา  สำหรับบุตรทั้งหลายของเรา เราเผยตัวเราอย่างเปิดเผย สำหรับซาตาน เราคือบารมีและการพิพากษา และไม่ซ่อนเร้นเลย  ทุกวันนี้ เฉพาะบรรดาบุตรหัวปีของเราเท่านั้นที่คู่ควรที่จะรู้เจตนารมณ์ของเรา ไม่มีผู้ใดอื่นมีคุณสมบัติเหมาะสม—และเราได้จัดการเตรียมการทั้งหมดนี้ไว้ล่วงหน้าก่อนการทรงสร้าง  ในช่วงต้น เราได้จัดการเตรียมการอย่างถูกต้องเหมาะสมว่าผู้ใดจะได้รับการอวยพรและผู้ใดจะได้รับความทุกข์ เราชัดเจนเกี่ยวกับการนี้ และวันนี้มันก็ได้สำแดงอย่างครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว กล่าวคือ บรรดาผู้ที่ได้รับการอวยพรก็ได้เริ่มชื่นชมพรของพวกเขาแล้ว ส่วนพวกที่ได้รับความทุกข์ก็ได้เริ่มทนทุกข์กับความวิบัติแล้ว  พวกที่ไม่ปรารถนาที่จะได้รับความทุกข์ย่อมจะได้รับความทุกข์อยู่ดี เพราะนี่คือสิ่งที่เราได้ลิขิตไว้และเป็นสิ่งที่มือแห่งกฎการบริหารปกครองของเราได้จัดการเตรียมการไว้แล้ว  แท้จริงแล้วบุคคลประเภทใดได้รับการอวยพร และบุคคลประเภทใดได้รับความทุกข์กันแน่?  เราได้เผยสิ่งเหล่านี้ไปเรียบร้อยแล้ว นี่ไม่ใช่ความลึกล้ำสำหรับพวกเจ้า แต่ในทางกลับกัน มันเป็นที่รู้กันทั่ว กล่าวคือ พวกที่ยอมรับเราแต่มีเจตนาที่ผิด พวกที่ยอมรับเราแต่ไม่แสวงหาเรา พวกที่รู้จักเราแต่ไม่นบนอบเรา พวกที่ใช้ความคดโกงและการหลอกลวงมาหลอกลวงเรา พวกที่อ่านวจนะของเราแต่กลับพ่นสิ่งที่เป็นลบ และพวกที่ไม่รู้จักตัวพวกเขาเอง พวกที่ไม่รู้จักสิ่งที่พวกเขาเป็น พวกที่คิดว่าตัวพวกเขานั้นยิ่งใหญ่ และพวกที่คิดไปเองว่าพวกเขาได้ถึงซึ่งความเป็นผู้ใหญ่แล้ว (ตัวอย่างของซาตาน)—ผู้คนเช่นนี้ทั้งหมดคือเป้าหมายของการได้รับความทุกข์  บรรดาผู้ที่ยอมรับเราและเจตนาของพวกเขาเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งเรา (และหากพวกเขาเป็นเหตุให้เกิดการหยุดชะงัก เราก็จะไม่จดจำการล่วงละเมิดของพวกเขา—แต่เจตนาของพวกเขาต้องเที่ยงตรง และพวกเขาต้องระมัดระวัง รอบคอบอยู่เสมอ และไม่เกเร และพวกเขาต้องมีเจตจำนงที่จะฟังเราและนบนอบต่อเราเสมอ) บรรดาผู้ที่บริสุทธิ์ บรรดาผู้ที่เปิดเผย บรรดาผู้ที่ซื่อสัตย์ ผู้ที่ไม่ถูกบุคคล เหตุการณ์ หรือสิ่งใดตีกรอบเอาไว้ และผู้ที่เหมือนเด็กในด้านรูปลักษณ์ ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ในชีวิต—คนเหล่านี้คือผู้เป็นที่รักของเรา เป้าหมายแห่งพรของเรา  บัดนี้พวกเจ้าแต่ละคนจะเข้าประจำตำแหน่งแห่งที่ของเจ้าตามภาวะของเจ้า  ที่มากกว่านั้น เจ้าจะรู้ว่าเจ้าได้รับการอวยพรหรือได้รับความทุกข์ ไม่มีความจำเป็นที่เราจะกล่าวออกมาอย่างชัดแจ้ง  บรรดาผู้ที่ได้รับการอวยพรควรชื่นบานและเป็นสุข ขณะที่พวกที่ต้องทนทุกข์กับการได้รับความทุกข์ก็ไม่ควรคับแค้นใจ  ทั้งสองฝ่ายได้รับการจัดการเตรียมการด้วยมือของเรา แม้ว่าเราไม่ใช่ผู้ที่จะถูกติเตียน กล่าวคือ เป็นการขาดพร่องความร่วมมือกับเราของเจ้าเอง รวมทั้งความล้มเหลวของเจ้าในการเข้าใจว่าเราคือพระเจ้าผู้ทรงสำรวจค้นหัวใจส่วนลึกสุดของมนุษย์  นี่คือสิ่งที่เราได้กำหนดพิจารณาไว้ล่วงหน้าแล้ว และเจ้าก็ได้ทำร้ายตัวเจ้าเองโดยผ่านทางการใช้เล่ห์เหลี่ยมเล็กๆ น้อยๆ ของเจ้าเอง เจ้าทำให้สิ่งนี้บังเกิดแก่ตัวเจ้า!  การที่เจ้าควรตกลงไปในแดนคนตายไม่ใช่การทารุณเจ้า!  นี่เป็นวาระสุดท้ายของเจ้า นี่คือบทอวสานของเจ้า!

บุตรหัวปีที่ได้รับการอวยพรทั้งหลาย!  จงลุกขึ้นมาเร็วไวและเปล่งเสียงยินดี!  จงลุกขึ้นมาเร็วไวและเปล่งคำสรรเสริญ!  นับแต่บัดนี้ไป จะไม่มีความขมขื่นอีกแล้วและจะไม่มีความทุกข์อีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือของเรา  ผู้ใดที่ความคิดของเขาสอดคล้องกับของเราอย่างสมบูรณ์ย่อมเป็นบุคคลที่เรารัก และจะไม่ต้องทนทุกข์กับความวิบัติ  สิ่งใดก็ตามที่เป็นความพึงปรารถนาแห่งหัวใจของเจ้า เราจะทำให้สิ่งนั้นลุล่วง (แต่มันจะเป็นไปตามใจชอบไม่ได้) นี่คืองานของเรา

ก่อนหน้า:  บทที่ 68

ถัดไป:  บทที่ 70

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 6) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 7) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 8) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 9) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

Connect with us on Messenger